สวัสดีครับ บทความเราจะมาพูดถึง เฉพาะการขายของบนไอจี นะครับ ขายยังไงให้ขายได้ สำหรับเพื่อนๆ ทีเริ่มขายของบนไอจี ig แล้วเริ่มท้อ ทำไมเราถึงขายไม่ได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงองค์ประกอบสำคัญกันที่ทำให้ขายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ย้ำในเวลาอันรวดเร็ว!! สำหรับใครที่อ่านบทความนี้จนจบ ผมมั่นใจครับว่าถ้าทำตามจะต้องขายได้แน่นอนเชื่อผมสิ ผมลองมาแล้ว ในเวลา 4 อาทิตย์ขายได้เลย
สำหรับใครที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ผมคาดหวังว่าทุกคนจะรู้จักไอจีอยู่แล้ว ใช้งานเป็น สมัคร instagram เป็น เบื้องต้นผมจะไม่พูดถึงขนาดนั้น ผมจะเจาะประเด็นเฉพาะ เฮ้ยๆๆๆ ทำไมถึงขายไม่ได้สักทีวะ แล้วจะมาแก้ไขปัญหากันเพื่อให้ขายได้ เพื่อนๆ ต้องทำตามที่ผมพูดให้ครบทุกข้อต่อไปนี้ ที่จะกล่าวนะครับ ถ้าทำครบแล้วขายได้เลยรับประกัน มาเริ่มกัน
1. หาสินค้าที่ถนัดที่ชอบมมาขาย โจทย์ใหญ่สำหรับคนทั่วไปจะขายอะไร จริงๆ ขายอะไรก็ได้นะครับ แล้วแต่ว่าจะได้กำไรเยอะ หรือกำไรน้อย สำหรับผม กำไรที่ผมยอมรับได้คือ 60 บาท ขึ้นไป กำไรที่ผมชอบก็เป็นหลักร้อยขึ้นไป แต่สินค้าที่จะทำกำไรให้ได้หลักร้อยนั้นหายาก แต่ใช่ว่าจะหาไม่ได้ วิธีการหาของมาขาย ให้เพื่อนๆ ทุกคนค้นหาบน google สำหรับสินค้าที่เรากำลังสนใจอยู่ หาราคาของสินค้าชิ้นนั้นมาให้ได้ ดูหลายๆ เว็บ ถัวเฉลี่ยๆ หาราคาต่ำสุดที่เราพบเจอ จดบันทึกเว็บไซต์และราคาเอาไว้ หลังจากนั้นให้เอาชื่อสินค้านั้นมาค้นบนไอจี ถ้าพบคำผลลัพธ์เกี่ยวข้องกับคำที่เราค้นหาแสดงว่าสินค้านั้นติดตลาดเข้ามาระยะเวลาหนึ่ง มีคู่แข่งอยู่แล้ว ดีเลย แสดงว่าคนรู้จักแล้ว เราเอาสินค้านี้มาขายกันเถอะ เค้กชิ้นนี้เราก็ขอแบ่งหน่อยนะจากร้านอื่นๆ แต่ถ้าค้นไม่เจอเลยไม่ควรทำครับ เพราะอะไรเหรอครับ ไอจี คือตลาดที่เหมาะสำหรับขายสินค้าที่มีความรู้จักมาพอสมควรแล้ว ไม่ใช่สินค้าใหม่จนไม่มีคนรู้จัก จะขายได้ดี เพราะขายใน ไอจี เราต้องการรีวิว ถ้าไม่เคยมีคนใช้เราจะขายไม่ได้ครับ
หลังจากนั้นผมแนะนำให้เช็กราคาของร้านต่างๆ บนไอจีว่าขายเท่าไร ราคาบนเว็บที่เราได้มาถูกกว่าไหม โดยส่วนใหญ่ราคาบนไอจี จะแพงกว่าบนเว็บอยู่แล้ว เช่นของที่มีคนขายบนเว็บ 500 บาท บน ig จะขาย 590 – 650 บาทได้ เลย นี่คือเทคนิคกำหนดราคา ถ้ากำหนดมากกว่านี้หลายร้อยล่ะ จะขายได้ไหม ตอบเลยว่ายากครับ ราคาที่คนยอมรับได้ก็ห่างกันประมาณ 100 – 150 ก็ได้ แต่นี่ก็ขึ้นอยู่กับสินค้านะครับ เพื่อนๆ ก็ต้องลองสังเกตุ ลองตั้งราคาตามร้านค้าใน ig ที่เราสำรวจมา ตัวอย่างนะ สินค้า gadget มีคนขายบนเว็บ 450 บาท เป็นราคาต่ำสุด พอมาค้นดูใน ig กลับพบว่ามีคนขายอยู่ในช่วงราคา 490 – 600 บาท ดังนั้นราคาที่เราควรขายตามคือ 490 ขายดีมากและกำไรน้อย หรือจะตั้งไว้กลางๆ 530 บาท มันก็จะยังขายได้เรื่อยๆ แต่ถ้าเราตั้ง 600 บาท ขายไม่ค่อยได้หรอกเชื่อสิ ลองคิดว่าเราเป็นลูกค้าดูสิครับ ทุกคนก็จะพยายามหาสินค้าที่ถูกที่สุด เป็นเป้าหมายหลัก แต่อีกส่วนหนึ่งก็จะต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือและส่งของจริงๆ ดังนั้นราคาถูกไม่ใช่ว่าจะขายได้เสมอไป หากเราตั้งราคาไว้ที่ 530 บาท แต่ร้านเรามีคนซื้อเยอะมีรีวิวดี ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าตลอดเวลา คนก็จะซื้อร้านเรา เพราะลูกค้า อยากได้ของถูก และอยากโอนเงินไปซื้อแล้วได้ของ ไม่ใช่โอนไปแล้วหายไปเลย หรือถูกโกงนั่นเอง ลูกค้าก็จะเลือกร้านที่น่าเชื่อถือกว่า จำไว้นะครับ ราคา มีผลกับการขายได้ ความน่าเชื่อถือก็เช่นกัน อ่านจบแล้วเพื่อนๆ เข้าใจมากน้อยเพียงใด ผมจะลิสต์สรุปประเด็นสำคัญให้นะครับ เป็นข้อๆ
- ไอจีเหมาะกับขายของที่ติดตลาดมาแล้ว สินค้าขายดี เอามาขายเลยเรามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดกับคนอื่นกันเถอะ
- ราคาบนไอจีจะสูงกว่าบนเว็บ ไม่ควรตั้งราคาสูงมาก ไม่ต้องต่ำมาก แต่ตั้งกลางๆ และเพิ่มความน่าเชื่อถือร้านเอา
- กลุ่มสินค้าที่ขายได้ คิดดูนะครับ คนเล่นไอจีอายุ 13 – 22 เยอะสุดตอนนี้ สัดส่วน 80% ต่อ 20% เลยล่ะ สินค้าก็ควรหลอกล่อเด็กเหล่านี้ให้มาติดกับเรา แฮ่ๆ
- สินค้าซื้อซ้ำทำแล้วรวย ลูกค้าจะกลับมาซื้อกับเราเฉลี่ยๆ 2-4 ครั้งก่อนจะหายไป หรือเลิกใช้
- สินค้ากิน บริโภค อาหารเสริม เสื้อหา ขายแล้วสบายใจไม่ต้องดูแลหลังการขายมาก แต่คู่แข่งเยอะนะสินค้าพวกนี้
- สินค้า gadget มือถือ ไอที ซื้อแล้วต้องมีประกัน ดูแล เคลม เลือกเอานะชอบแบบไหน
ที่พูดมาทั้งหมดด้านบนใช้กับสินค้าที่มีอยู่แล้วบนท้องตลาดนะ เรามาแบ่งส่วนแบ่งการตลาดกับคนอื่นเขาเฉยๆ แต่ถ้าอยากปลุกปั้นสินค้าใหม่ๆก็ไปจ้าง net idol หรือ ดารา ดังมาช่วยสร้างภาพลักษณ์สินค้า แต่นี่ใช้งบประมาณสูง เราจะไม่กล่าวถึงเนาะ คนทั่วไปก็ไม่ค่อยมีกิน เงินไม่มี มีน้อย ลงทุนแบบน้อยๆ แบบนี้ล่ะ
สรุปหัวข้อที่หนึ่งนี้สั้นๆ ว่า สินค้าดีมีไชไปกว่าครึ่ง เลือกๆมาเลย เอาสินค้าที่ขายดี ได้กำไรน้อยไม่เป็นไร แต่ได้กำไร คู่แข่งเยอะไม่เป็นไร ก็ขายดี เข้าใจกันทุกคนนะครับ แต่ถ้าใครมีแนวคิดว่าเฮ้ยสินค้ามันขายดี คู่แข่งเยอะ เราอยากหาสินค้าที่ใหม่ๆเลย ไม่มีคู่แข่ง มาขาย บอกเลยว่าเลิกล้มซะ ถ้าคุณไม่มีงบการตลาด แนะนำ สินค้าขายดีดีกว่าครับ ไม่เช่นนั้นคุณจะขายไม่ได้เลย
2. ข้อมูล Profile บน ไอจี ผมขอแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน ที่ต้องลง คือ ชื่อผู้ใช้ , ชื่อ , ประวัติ(ข้อมูลร้าน) และเว็บไซต์
“ชื่อผู้ใช้” ควรมีความเกี่ยวข้องกับสินค้าที่ขาย จะดีกว่า เวลาลูกค้าค้นหา ig จะเริ่มมองจากชื่อ profile ที่เกี่ยวข้องกันก่อน หลังจากนั้นจะไปมอง “ชื่อ” ของไอจี ต่อไป เช่นคนขายต่างหู ควรจะตั้ง “ชื่อผู้ใช้” ว่า “earring_took” หรืออะไรประมาณนี้ และมี “ชื่อ” ig ว่า “ขายต่างหู สวย ต่างหูแฟชั่น” เพื่อเวลาคนค้นหาคำว่า earring จะได้เจอเรา หรือค้นหาว่าต่างหู จะได้เจอไอจี ของเราขึ้นมาแสดงผลลัพธ์บนหน้าค้นหาด้วย ในทีนี้คำว่า earring และ ต่างหู ผมขอเรียกว่า keyword ซึ่งเราควรใส่ keyword ลงไอ 2-3 คำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหาให้ผู้คนค้นหาไอจีของเราเจอมากขึ้น หลีกเลี่ยงตั้งชื่อมั่วๆ เพราะจะขายของไม่ออกครับ ลูกค้าค้นหาไม่เจอ
“ประวัติ”(ข้อมูลร้าน) ตรงส่วนนี้ไม่มีผลต่อการค้นหาเลย ใส่อะไรลงไปก็ได้ให้น่าเชื่อถือ เช่น จดทะเบียนถูกต้อง มีเลข อย. ส่งเร็ว ส่ง จันทร์ ถึง ศุกร์ ส่ง ems สต๊อกเอง เคลมได้ทันที ของแท้ 100% line id, ตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าของร้านเองนะครับว่าจะใส่อะไรลงไปให้น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยง คำพูดที่รุนแรง วีนลูกค้า เช่น สั่งห้ามยกเลิก (CF NO CC) หรือแคปประจาน
“เว็บไซต์” ตรงนี้ให้เอาลิงค์ของ line มาใส่เลยครับลูกค้าจะได้กดสั่งของได้ง่ายๆ หรือถ้าใครมีเว็บจะใส่ url website ลงไปก็ได้ครับ
สรุปส่วนที่มีผลต่อการค้นหาคือส่วน ชื่อ และชื่อผู้ใช้นะครับ จำให้ดี ใส่ keyword ลงไป 2-3 คำ ห้ามตั้งชื่อมั่วๆ นะ
3. รูปโปรไฟล์ จะใส่รูป SALE รูปสินค้า รูปดารา brand presenter หรืออะไรก็ได้ หลีกเลี่ยงรูปตัวเอง เพราะมันดูไม่สื่อความหมาย
4. รูปสินค้า ควรทำออกมาหลายๆ รูป ร้านไหนมีสินค้าชนิดเดียว ชิ้นเดียว ก็ควรมีภาพหลายๆมุมของภาพสินค้า ภาพสินค้าและราคา ภาพคำพูด ภาพรายละเอียดสินค้า เช่น สั่งได้เลยน้าาาา ร้านเปิด ภาพรีวิวจากลูกค้า ภาพแชทคำชื่นชมของลูกค้า
- ภาพสินค้าต้องชัดไหม คำตอบคือชัดในระดับหนึ่ง ไม่ต้องชัดแบบล้ำๆ มาก เพราะลูกค้าจะคิดว่า มันแพง มันเว่อ ให้ไปดูภาพสินค้าของร้านอื่นๆ ดูว่าเขาทำกันแบบไหน หัดใช้ App แต่งภาพในมือถือให้เป็น app สามัญประจำเครื่อง ก็จะเป็น ฝั่ง Android ก็เป็น Line Camera, Font Lab, Textgram ฝั่ง IOS ก็เป็น Line Camera, VSCO, Photo Grid, Phonto เป็นต้น ลักษณะภาพที่ดี ควรเป็นภาพสีสด แต่ไม่ต้องสดมากนะ สดแบบพอดี จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้สนใจในตัวสินค้าได้ แต่ถ้าเป็นภาพสีจืดๆ จะขายไม่ออกแน่นอน
- ภาพสินสินค้าควรมองแล้วเข้าใจว่าคืออะไร มีอะไรบ้าง ไม่ใช่ถ่ายภาพขาดๆ ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจ อันนี้ดูภาพเลยดีกว่าจะได้เข้าใจ
สำหรับแคปชั่นใต้รูป ควรมีอะไรบ้าง ก็มีชื่อสินค้า รายละเอียดไม่ต้องเยอะนะครับ เอาที่คิดว่าลูกค้าชอบถามบ่อยๆ แค่นั้นเอง อย่าลืมติด hashtag ด้วยนะ ลูกค้าจะได้เห็นเรา หรือเข้ามาดูเราจาก hashtag นี่ก็เป็นอีก 1 ช่องทางที่เราจะได้ลูกค้า สำหรับใครที่ไม่รู้จัก hashtag แนะนำให้ค้นหา google ครับ เพราะบทความนี้เราจะไม่ลงลึกพื้นฐาน
5. การเพิ่มความน่าเชื่อถือ องค์ประกอบของความน่าเชื่อถือมันอยู่ที่ไหนน่ะเหรอ มันประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ
- รูปภาพที่เราโพสต์มีเยอะมากไหม ถ้ามีแค่ 10 รูป ก็จะขายยาก ตัวเลขที่ผมคิดว่าโอเค ที่ทดลองมาแล้ว ประมาณ 500 รูป ก็จะเริ่มดี มันจะทำให้ตัวเลข ช่องโพสต์มีขึ้นมา แสดงถึงเราเปิดมานานนะ เรามีโพสต์เยอะพอสมควร
- ผู้ติดตาม ประมาณ 10000 (10k) จะเริ่มขายได้ ดี จริงๆ ประมาณ 6000 ก็โอเคแล้ว แต่ถ้าให้ดีประมาณ 10000
- กำลังติดตาม ตัวเลขนี้มีประมาณ 700 – 7000 คนก็ได้ไม่มีปัญหา ยังไงก็ได้ไม่สำคัญอะไรมากเท่าไร แต่ถ้าจะให้ดูดี ตัวเลขของผู้ติดตาม จะต้องเยอะกว่า กำลังติดตาม
- like ของโพสต์ ประมาณ 30 ไลค์ ขึ้นไป กำลังดู ฮ๊อตๆ เลยครับต่อรูป ก็เพียงพอแล้ว
ขั้นตอนที่ 1 สำหรับกระบวนการสร้างความน่าเชื่อถือ ตรงส่วนนี้สำคัญมากครับ ให้ทุกคนไปเตรียมรูปให้พร้อมในหัวข้อที่ 4 ก่อนนะครับ และโพสต์รูปไปเรื่อยๆ วนไปวนมา รูปเดิม รูปใหม่ มี แคปชั่น หรือไม่มีแคปชั่นก็ได้ โพสต์ไปเรื่อยๆ แบบไม่ลืมหูลืมตาได้เลยครับ ประมาณ 300 ก่อนแล้วค่อยมาว่ากันเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ไม่ต้องสนใจไลค์ของรูปนะครับ เพราะเราไม่มีคนติดตามเรายังไงก็ไม่มีไลค์แน่นอน ตรงส่วนนี้เราจะทำเพื่อเพิ่มตัวเลขโพสต์บนช่องซ้ายบนไอจีของเรา ให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น วันหนึ่งควรโพสต์ได้เท่าไร โพสต์ได้มากน้อย หรือโพสต์เร็วติดๆ กันได้ไหม ตรงนี้ขอตอบว่าจากการทดลอง วันหนึ่งไม่ควรโพสต์เกิน 100 ภาพครับ ไม่งั้นไอจีจะเตือนเรา ว่าเราทำให้ชุมชนเขาไม่สงบสุขครับ และเวลาโพสต์จะโพสต์ติดๆ กันไปเรื่อยๆ เลยก็ได้ พบว่าความเร็วยังไม่มีผลในตอนนี้ แต่ผมก็ไม่แน่นะครับ ในอนาคต โพสต์เร็วๆ อาจจะมีผลก็ได้เนาะ สำหรับผมแนะนำให้โพสต์แค่วันละ 50 ภาพ กำลังพอดีครับ แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว แคปชั่นใต้ภาพไม่ต้องเนอะ วันละ 50 ภาพ 6 วันก็ 300 ภาพแล้ว
** ควรทำตามคำแนะนำผมนะครับ ผมทดสอบมาแล้ว ถ้าเกินนั้น โดนแบนมาผมไม่รู้ด้วยนะครับ 55 **
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อเราได้ภาพครบ 300 ภาพแล้ว ตัวเลขบนสุดฝั่งซ้าย เริ่มดูดีล่ะ ในระหว่าง 6 วันที่ผ่านมาทุกคนก็ควรจะไปเตรียมภาพมาเพิ่มเติมให้เยอะขึ้นนะครับ จะได้มีภาพใหม่ๆ ใน ig เราด้วย สำคัญมากนะครับตรงส่วนนี้ ต่อมาภาพที่ 301-500 ต่อไปนี้ให้ตั้งใจทำนะครับ ภาพจะต้องมี caption รวมถึง hashtag ที่เราต้องการให้ลูกค้าเข้ามาเจอ เมื่อโพสต์ภาพ ให้ใส่ รายละเอียดใต้ภาพ ชื่อสินค้า ราคา ค่าจัดส่ง ไลน์ไอดี และ hashtag ตรงส่วนนี้ไม่ต้องเหมือนกันทุกภาพ แล้วแต่เรานะครับ แล้วแต่ร้านเราว่าต้องใช้อะไรยังไง หลังจากนั้นให้กดโพสต์ รูปจะขึ้นมา บนไอจีเรา แต่มันไม่มีคนไลท์อ่ะดิ ตรงนี้เราจะต้องไปซื้อบริการมาช่วยกับ เรียกว่าซื้อไลท์รูป ราคาตกรูปละ 2.5 บาท เค้าจะไลท์ให้ประมาณ 30 ไลท์ พอดีเลยะครับ ทุก 5 นาที จะมีระบบมาตรวจเช็กว่ามีรูปใหม่ใน ig เราไหม ถ้ามีระบบจะปล่อยไลค์ (คนต่างชาติ) มาไลค์รูปให้เราแบบอัตโนมัติ แต่จากการทดสอบระบบโดยส่วนตัวที่ซื้อมาใช้
- ทุก 5 นาที เมื่อมีรูปใหม่ มันจะมีไลค์ให้เราอัตโนมัติ
- บางครั้ง 5 นาทีผ่านไปมันก็ยังไม่มาสักที บางทีมันเป็นกับระบบคงยุ่งให้บริการ มีคนใช้บริการเยอะ อาจจะช้าบ้างให้รอไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีมาไลค์นะครับ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องโพสต์ต่อ โพสต์เสร็จก็ทำอย่างอื่นรอ แล้วค่อยกลับมาดูทีหลังไม่ต้องรีบ วันหนึ่งทำได้ประมาณ 20 รูปครับ ก็เก่งแล้ว เพราะต้องรอระบบด้วย บางทีผมรอไป 7 ชม อันนี้ก็ต้องทำใจครับ รอต่อไป ฮ่าๆ ไม่เป็นไร
- กรณีเราโพสต์รูปติดกัน หลายรูปใน 5 นาที เช่น โพสต์ไป 3 รูป ระบบจะไลค์แค่รูปสุดท้ายนะครับ แบบนี้ไม่เอา เพราะเดี๋ยวจะทำให้รูปเราไลค์แหว่ง คือ บางรูปมีไลค์เยอะ บางรูปมีไลค์น้อย แบบนี้ไม่ดี เพราะมันดูปลอมมากๆ ตั้งใจทำกันหน่อยนะ
- ไลค์ที่ได้มาแต่ละรูปจะไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 30 – 45 ดูเป็นธรรมชาติ
สำหรับใครที่ต้องการซื้อไลค์รูปภาพ ปั้มไลค์อินสตาแกรม เข้ามาดูรายละเอียดที่นี่ นะครับ
ทำต่อไปเรื่อยๆนะครับจนครบ 500 แล้วหลังจากนั้น ก็ทำไปให้มันเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วันหนึ่งอาจจะโพสต์ 3-5 โพสต์ก็ได้ แล้วแต่เรา เราถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนที่ 2 เรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 3 ให้ทุกคนเพิ่มช่อง follower หรือผู้ติดตามให้มากขึ้น การเพิ่ม ยอด follow ig โดยไปซื้อฟอลต่างชาติมาเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ฟอลไทย ซึ่งราคาแพงกว่ามาก ฟอลไทยหาได้ยังไงก็หาได้จากการแลกไลค์ตามเว็บต่างๆ แต่ราคาจะแพง ถ้าจะซื้อเอานะ และฟอลไทยก็ไม่ค่อยมีผลต่อการตลาดอะไรนัก คนที่มาฟอลก็เป็นพวกร้านค้าที่ต้องการฟอล หรือเป็นใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเราแน่นอน แม้มันจะเป็นคนไทย ติดตามเราอยู่ เห็นเราโพสต์สินค้า สุดท้ายมันก็ไม่ซื้ออยู่ดี เพราะการที่มันฟอลเราตอนแรกจุดมุ่งหมายมันมาเพื่ออยากเพิ่มฟอล ไม่ใช่อยากได้สินค้า ดังนั้นไม่ต้องสนใจอะไรเอาฟอลฝรั่งไปเลยราคาถูกกว่าเยอะ
สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มยอด follow ซื้อ follower instagram ลองดูรายละเอียดที่นี่ ครับ
เมื่อไปซื้อ follow ig มาเรียบร้อยแล้ว ช่องกลางของ ig จะเริ่มมีตัวเลขเพิ่มขึ้น เช่นถ้าเราซื้อที่ 10000 ฟอล ก็จะมีตัวเลขขึ้น 10000 แต่ตัวเลขตรงนี้เป็นฟอลปลอม อาจจะไม่ได้อยู่ยั้งยืนยง อาจจะหายไปบ้างเล็กน้อย 10-20% เมื่อผ่านไป 2 อาทิตย์ หรืออาจจะไม่หายเลย ตรงนี้ถือว่าเป็นปกติครับ เพราะไอจีอาจจะมีการกำจัดออกไปบ้าง แต่ระหว่างนี้เราก็จะเติมฟอลจริงๆ คนจริงๆ ลูกค้าจริงๆเข้าไป ดูในขั้นตอนต่อไปได้เลย
ขั้นตอนที่ 4 ให้ใช้ศาสตร์มืด จากคำภีร์เรา ไปดึงลูกค้ามาก วิธีการนี้ร้านค้าทั่วไปเค้าก็ใช้กัน คือการเริ่มไปฟอลคนอื่นเขาก่อน ฟอลคนที่คิดว่าจะเป็นลูกค้า แล้วถ้าเค้าสนใจเค้าจะกลับมาฟอลเราคืน ตรงนี้ก็ขึ้นกับภาพในไอจีเรานะ ว่าสวยน่าติดตาม สินค้าน่าสนใจพอไหม อ้าวแล้วจะไปฟอลใคร ทำแบบนี้ครับ เช่นคุณขายต่างหู คุณก็ไปค้นหาร้านต่างหูร้านอื่น กดไปดู ตรงตัวเลขช่องกลาง ของร้านอื่นที่ขายต่างหูเหมือนกับเรา และไปฟอลลูกค้าเขา ดูดีๆครับเวลาฟอล เอาแค่เฉพาะคนที่เป็นคน เป็นลูกค้า ไม่ใช่เอาหมดเอาร้านค้าด้วย ส่วนใหญ่ถ้าเอาร้านค้ามาด้วยเขาอาจจะซื้อของเรา แต่ก็ไม่มากครับ สู้ไปฟอลคนที่ไม่ใช่ร้านค้าดีกว่า มีข้อยกเว้นนะครับ สำหรับใครที่ทำร้านขายเสื้อของสวยงาม มั่นใจร้านเราสวย ของเรางาม ของเราดี ฟอลไปหมดเลยครับ ผู้หญิงเขามีต่อมเสียเงินง่ายสำหรับพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าร้านไหนฟอลหมดเลย ยกเว้นร้านเสื้อด้วยกันเองนะ เดี๋ยวตีกันตาย
(เพราะทำแบบนี้กันล่ะครับ ร้านค้าด้วยกันเองก็เลยรีบบล๊อกกันเองไว้ ใครบล๊อกก่อนคือผู้ชนะ ทำไมน่ะเหรอครับ เพราะผู้บล๊อกจะมองเห็นผู้ติดตามของผู้ที่ถูกบล๊อกเหมือนเดิม มาแย่งลูกค้าได้เหมือนเดิม แต่ผู้ถูกบล๊อกจะมองไม่เห็นอะไรผู้บล๊อกเลย ได้เปรียบเห็นๆ การแย่งลูกค้าแบบนี้ ไม่ใช่ลูกค้าเขาจะมาหมดนะครับ ร้อยคนอาจจะมา 5 คน แค่นั้นก็โอเคแล้วครับ ดีกว่าไม่ได้การตลาดแบบรุกมากครับ)
วิธีการให้กด ฟอลไปเรื่อยๆ เลยครับ เข้าร้านเขาแล้วเปิดช่อง ผู้ติดตาม แล้วก็กดฟอลลูกค้าเขาเลย ทำไปเรื่อยๆ ประมาณ 150 ก็พอครับ นับครั้งที่กดไปเลย มันจะมีคนที่รับทันที กับคนที่ต้องส่งคำร้องขอไป เอาแค่ 150 ครั้งพอนะ แล้วก็ไปทำอย่างอื่น ทำทุกเช้า เที่ยง เย็น แค่นี้นะ จะได้ไม่เหนื่อยมาก เมื่อทำไปเรื่อยๆ ช่อง กำลังติดตามจะเพิ่มมากขึ้น เพิ่มขนาดไหนถึงจะเริ่ม unfollow ก็สักประมาณ 5000 แล้วกันครับ กำลังพอดี เมื่อถึง 5000 แล้ว เวลา unfollow ให้คลิ๊กเข้าไปที่ช่อง กำลังติดตามของเราเองนะ แล้วก็เลื่อนๆลงไปจนสุด แล้วก็กดเครื่องหมายบวก เลื่อนลงไปสุด แล้วกดบวก ให้นับครับกดบวกประมาณ 12 ครั้ง แล้วเรานับจุดนั้นเป็นจะดที่จะเริ่ม unfollow ก็ไล่ unfollow ขึ้นนไปเรื่อยๆ จนครบ 150 ครั้ง ก็พอ ในช่วงเวลาหนึ่งเราสามารถ unfollow ได้ 200 ครั้ง แต่วันหนึ่งทำได้มากสุดกี่ครั้งนี่จำไม่ได้ครับ จำได้แต่ว่าเคย ฟอล ทำไปเยอะมาก เสร็จก็มาอันฟอล ทำไปเยอะมาก ฟอลๆ อันๆ แบบนี้ล่ะครับไอจี เด้งออกเลย เสียวสันหลังวาบ เป็นอันตรายต่อชุมชุนเขาครับ หลังจากนั้นก็ปฏิบัติตัวเป็นคนดี เริ่มทำตามกฎของเรา คือ
- ฟอลไป 150 ครั้ง นับเอานะ ทำเสร็จ ก็ อันฟอลไป 150 ครั้ง เป็นอันจบ ตัวเลขนี้ก็ยืดหยุ่นได้นะแล้วแต่เราเลย
- แต่ ฟอลไม่ควรเยอะกว่า 200 ครั้ง และอันฟอล ไม่ควรเกิน 200 ครั้ง
- ทำเร็วได้ไหม ได้ครับ ตอนอันฟอล ก็ทำเร็วๆ กดอันเร็วๆได้เลย
ตามขั้นตอนนี้ล่ะ ทำไปเรื่อยๆ ประมาณ 2-5 วันก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์แล้ว ลูกค้าจะเริ่มเข้ามาหาเราเอง
ขั้นตอนที่ 6 ฝากร้านกับดารา เป็นวิธีที่ได้ผลนะครับ บางวันก็ดี บางวันก็ไม่ดี แล้วแต่ การขายของนั่นก็คือดวงนั่นเอง ดวงดีได้เยอะ ไม่ดีได้น้อย เราก็ควรทำทุกทาง ทั้งการ follow ลูกค้าคนอื่นเขา และการโพสต์ดารา เพื่อหาลูกค้า การโพสต์ดารา ก็ไม่ยาก เช่น ขายต่างหู ก็บอกว่า “ต่างหูดี สวย ๆ มากมายหลายรุ่น ราคาถูก เข้ามาดูได้เลย” ประมาณนี้ครับ ใครจะเขียนยังไง ก็เหมือนการเชิญชวน คิดเองกันได้เลย แต่มีข้อแม้ครับ การโพสต์แต่ละครั้งถ้าอยากปลอดภัย ไอจี ig ไม่โดนแบน ควร เขียนข้อความใหม่ทุกครั้ง คิดใหม่ เขียนใหม่ สลับประโยคไปมา จะไม่โดนแบนครับ ถ้าก๊อปปี้ไปวางดาราคนแรก ดาราคนสอง ทำไปปั๊บจะถูกเตือนทันที ถ้าอยากมีอนาคตสดใจบน ไอจี ควรทำตามที่บอกนะครับ อย่าก๊อปซ้ำกัน เขียนใหม่ๆๆๆๆ
(ขั้นตอนที่ 7) จะทำหรือไม่ทำก็ได้นะครับ คือการไปลงโฆษณาในเพจบน ig ต่างๆ เช่น คำคม แนะนำให้ลงกับเพจพวก ตลก คำคม แบบนี้ดีกว่าครับมีลูกค้าจริงๆ อยู่เยอะ คนที่ชอบเรื่องตลก สนุก ขำขัน แต่ไปลงกับเพจ promote ไม่ค่อยโอเคเท่าไร ครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว เพจคำคมจะคิดราคา ประมาณนี้ครับ เช่น เพจเขามี 150,000-190,000 ฟอล เขาจะคิดประมาณ 150-180 บาท อันนี้ก็แล้วแต่ร้านนะครับประมาณให้ดู เผื่อใครอยากลงก็ไปถามๆ ราคาแต่ละร้านดู เขาจะลงโหษณาให้เรา 1 รูป หลังจากโพสต์จะไม่โพสต์อื่นเป็นเวลาครึ่งชม (อันนี้ก็แล้วแต่ที่ แล้วแต่เงื่อนไข) และจะไม่ลบโพสต์เราเป็นเวลา 2-4 วัน ประมาณนี้ ก็ไปสอบถามกันได้นะครับ จะได้ลูกค้ามาติดตามร้านเรา อย่าลืมเอาสินค้าถูกๆ ไปล่อนะครับ รูปโฆษณาจะต้องใช้ภาพสินค้าราคาถูก ๆ คนชอบครับ แบบนี้ แต่ถ้าไม่มี สินค้าเราค่อนข้างแพง ของแท้ 100% ของดีก็ว่าไป ก็โฆษณาได้เลยครับ แบบนั้นเลย
(ขั้นตอนที่ 8) ลงโฆษณาผ่าน เพจดังๆใน ig เช่นเพจ promote
ในขั้นตอนนี้สำหรับในปี 2018 ย่างเข้าปี 2019 นี้ ผมขอแนะนำว่า ให้ท่านปรับเพจใน ig ร้านค้าของท่านให้ดูน่าเชื่อถือให้เรียบร้อย ให้น่าเชื่อถือ แล้วไปลงโฆษณากับเพจดังๆใน ig เช่นเพจ คำคม ที่มีคนติดตามเป็นหมื่นๆ เป็นแสนๆ คน วิธีนี้ค่อนข้างเร็วได้ลูกค้าเยอะด้วย ไม่ต้องไปกด ฟอลลูกค้าร้านคนอื่นให้เสียเวลา อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา ก็แสนถูก สำหรับเพจที่มีคนติดตาม 10000-40000 ฟอล ที่เราจะไปลง ผมหาราคาถูกๆได้ถึง 30 บาทเลยก็มีต่อโพสต์ บางคนขาย 3 โพสต์ 50 บาท ก็มี แต่ก่อนผมไม่ได้แนะนำวิธีนี้เพราะว่า มันแพง ตอนช่วง ig บูมแรกๆ เค้าคิดกันโพสต์ละ 100 – 150 บาท เลยทีเดียวสำหรับคนประมาณ 40000 ฟอล
วิธีการโฆษณาผ่านเพจ
- หาเพจ ก็คือ ไปดูเพจที่เกี่ยวข้องกับเรา หรือ เพจ promote ต่างๆ หรือเพจคำคม ฯลฯ 1 เช็กจำนวนผู้ติดตามเขา 2. เช็กที่โพสต์ของเพจนั้นไปสัก 5-6 โพสต์ เพื่อดูว่ามีคนมาไลค์จริงๆ มั้ย มีคนคอมเม้นบ้างมั้ย กดเข้าไปดูว่าในการไลค์นั้น เป็นคนไทยด้วยหรือเปล่า ดูแล้วน่าเชื่อถือมั้ย น่าจะเป็นคนจริงๆ มาไลค์มั้ย เมื่อตัดสินใจได้แล้ว
- เตรียมรูปภาพสินค้าร้านเรา เพื่อที่จะให้เพจเหล่านันโปรโมตให้
- ติดต่อทักแชทไปทาง inbox ขอสอบถามราคาสินค้า
- เมื่อโอเคกัน ตกลงราคาได้ก็จ่ายเงิน และบอกช่วงเวลาที่เราต้องการให้เขาโพสต์รูปให้และแทกมายังร้านเรา (แต่ละช่วงเลาอาจมีราคาแตกต่างกันไป ลองๆคุยกันดู
- เสร็จ รอคนเข้าร้านค้า มาเจอร้านเรา แต่อย่าลืมร้านเราน่าเชื่อถือยัง สำคัญมาก เช็กรูปภาพ เช็กจำนวนโพสต์มีเยอะพอหรือยัง เช็กฟอล เช็กคนไลค์ (ฟอลกับคนไลค์แต่ละโพสต์สามารถทำได้ง่ายๆ ทักหาเราได้เลยคับ ลองดู รายละเอียด ที่นี่ )
(ขั้นตอนที่ 9) ลงโฆษณา ig ผ่าน facebook ในส่วนนี้ไม่ขอกล่าวถึงนะครับ เพราะใช้สตางค์อีกแล้ว
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบบทความอันแสนยาวของผม ติดตามบทความอื่นๆ ที่มีประโยชน์กันได้ใหม่ที่ riwwee.com ครับ
ซื้อ follower instagram, ซื้อ follow ig, เพิ่ม ยอด follow ig, ปั้มไลค์อินสตาแกรม, เพิ่มฟอลโล่ ig, ทําไงให้คนติดตามเยอะ, ซื้อฟอลโล่ ig
พี่คะ ตอนนี้หนูปั๊มผู้ติดตามจนไอจี้เด้งออกเอง เข้าไม่ได้ หนูต้องทำไงดีค่ะ
ทำอะไรไม่ได้เลยครับตอนนี้ ลองหาวิธีแจ้ง ig ทำตามขั้นตอนที่ทำให้เราทำครับ แต่พี่เคยลองแล้วครับ ไม่ได้ คือต้องทิ้ง ig ไปเลย แต่ยังไงก็ลองหาวิธีดูนะครับ เผื่อได้
ขอบคุณมากนะคะ ไม่คิดว่าจะมาตอบด้วย หนูเพิ่งสร้างไอจีร้านใหม่ลงรูปไว้เรียบร้อยเลย T T คงต้องทิ้งไป ยังไงขอบคุณมากๆค่ะ
ต่อไปทำ ig ใหม่ ทำช้าๆ ครับ เช่น โพสต์รูปต่อวันห้ามเยอะ กดฟอลคนอื่นเขาห้ามเยอะ อันฟอลชั่วโมงละน้อยๆ ไปคอมเม้นคนอื่นเค้าห้ามเยอะรวมถึงห้ามใช้ข้อความซ้ำด้วยครับ