Binary Option กลยุทธ ทำเงิน 5 ข้อ สำหรับหน้าใหม่หัดเทรด
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ เทรดออฟชั่น โดยไม่มีแผนหรือกลยุทธ์ ที่จะช่วยเรา ผมขอบอกเลยว่า คุณน่าจะตกหลุมพลางตัวเองแล้วล่ะครับ เพราะเล่นยังไงก็แพ้ เชื่อผมสิ มันไม่ได้ต่างอะไรกับการพนันเลย ดังนั้นเราทุกคนควรที่จะศึกษา Option กล ยุทธวิธี ของมันว่ามีกี่แบบ อะไรบ้าง รอบรู้ให้ครบทุกด้านไปเลย ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนลงไป อ๊ะๆ แต่ใครเป็นหน้าใหม่ก็อ่านแนะนำของผมด้านล่างนี้ด้วยนะ
ก่อนเริ่มบทความ แนะนำให้เริ่มต้นศึกษา ดังนี้
|
| คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การเทรด Binary options อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้น กรุณาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน |
| คำแปล: กำไรมากถึง 90%* สำหรับการคาดการณ์ที่ถูกต้อง – ทดลองบัญชีฝึกหัด (*จำนวนเงินที่จะได้รับเครดิตไปยังบัญชีในกรณีที่ซื้อขายประสบผลสำเร็จ) |
| บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ riwwee.com แต่เพียงผู้เดียว ห้ามก๊อปปี้ หรือทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตครับ |
เจาะลึก วิธีหาเงินออนไลน์ ด้วย Binary Options ด้วยเงินลงทุนเพียงหลัก ร้อย!! IQ Option
หากคุณกำลังมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ iq option คือคำตอบครับ พบกับบทเรียนสอนมากมายที่นี่ ที่เดียวจบ เข้าใจง่ายแม้ว่าคุณจะไม่เคยรู้อะไรเลยก็ตาม ไปอ่านกันได้เลยฟรีๆ
สำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง แนะนำให้เข้ามาอ่านที่นี่ครับ
ในปัจจุบันนี้ครับ ไบนารี่ออฟชั่น (Binary Option) ถือว่าใหม่มากสำหรับประเทศไทย แต่ไบนารี่ออฟชั่น ก็เป็นหนึ่งในเทรนตลาดทางการเงินที่สำคัญ เป็นคลื่นลูกใหม่เลยก็ว่าได้ ในทุกวันนี้ ทั้งนักเทรดที่มีประสบการณ์ หรือแม้กระทั่งนักเทรดหน้าใหม่ก็รีบเข้ามาเล่น สร้างโปรไฟล์ตัวเองว่าเป็นนักลงทุน ไบนารี่ออฟชั่น สำหรับ Binary Option ก็เหมือนๆกับการเทรดผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ล่ะครับ เรียกว่า สินทรัพย์ หรือ Asset ก็ได้ ก็คือเราก็ต้องศึกษาให้ลึกซึ้ง วิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ และวิเคราะห์ทิศทางให้ถูก เราถึงจะสามารถลงทุนแล้วให้ผลตอบแทนได้ แต่ก่อนที่คุณจะลงทุนเทรดได้ ผมบอกเลยว่า เราจะต้องมีกลยุทธวิธีในการเทรดที่ดี เพื่อที่จะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
แล้วถ้าเราไม่มี กลยุทธวิธี ล่ะ? ถ้าไม่มีคุณจะต้องพิจารณาตัวเองครับว่าคุณกำลังเล่นการพนันอยู่ แน่นอน 555 มีความเชื่อในโชคลาง มีความเสี่ยงดวง ฯลฯ การเชื่อในโชคไม่ได้ทำให้การเล่นไบนารี่ออฟชั่นชนะเสมอไปครับ โชคก็คือโชค มันอาจจะไม่เวิร์คก็ได้ในบางครั้ง ตอนแรกๆ คุณอาจจะได้ แต่สุดท้ายก็เสียเงินลงทุนทั้งหมดไป
ดังนั้น ผู้อ่านทุกท่านครับ ถ้าตอนนี้สนใจกับการเทรด Binary Option ผมว่าคุณอาจจะต้องการเทคนิคดีๆ ที่จะสามารถใช้ได้ตลอดเวลาที่เราเล่น ทำให้ตัดสินใจถูกครับ เวลาจะเทรดออปชั่น เราจะได้เพิ่มโอกาสที่จะชนะยังไงล่ะ
เสี่ยงดวงหรือว่าเทรด
ตอนนี้ผมจะแยกแยะให้ออกนะครับว่าอันไหนเสี่ยงดวง อันไหนเทรด
การเล่นออปชั่นแบบเสี่ยงดวง
สมมตินะครับว่าคุณเล่นแบบการเสี่ยงดวง จะอาศัยความเป็นไปได้ เราจะดูอยู่ไม่กี่อย่างแล้วก็เทรด เทรดด้วยความรู้สึกว่าน่าจะ บางคนอาจจะดูข่าวแล้วก็มาตัดสินว่าหุ้นมันน่าจะขึ้นหรือน่าจะลงทันที บางคนอาจจะดูแค่กราฟเท่านั้น บางคนอาจจะเชื่อพระที่ไปเช่ามาให้โชค 55 อย่างนี้เป็นต้น
การเล่นแบบมีเทคนิคการเทรด
การเล่นแบบนี้ จะดูทุกๆ อย่างประกอบกัน ดูข่าว ดูกราฟเชิงเทคนิค และดูข้อมูลทางสถิติหลายๆ อย่าง มีการฝึกฝน มีการทำตามระบบที่เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าจะเทรดเมื่อ… ยิ่งดูข้อมูลหลายอย่างประกอบกัน ก็ยิ่งชัวร์มากขึ้น ต้องอาศัยระยะเวลาและการฝึกฝนอย่างหนักครับ
กลยุุทธ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ เทรดออปชั่น
Binary Option เทคนิค มีอยู่ 5 ข้อต่อไปนี้ ค่อยๆ อ่านและทำความเข้าใจ ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน
ข้อ 1. กลยุุทธ์ ศึกษาปัจจัยพื้นฐานของหุ้น
วิธีการนี้ก็เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ ประสิทธิภาพทั้งหมดของบริษัท (กรณีที่เราเล่นสินทรัพย์ที่เป็นหุ้นบริษัทนะครับ) หรือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับค่าเงิน (กรณีเล่นหุ้นค่าเงิน) นักเทรดไบนารี่ออฟชั่น (binary option trader) จะต้องทำการบ้านมาดีครับ ต้องรู้ปัจจัยทั้งหมดและวิเคราะห์ทิศทางจากแนวโน้มในทุกๆด้าน
เช่น ถ้าเล่นสินทรัพย์เป็นบริษัท Apple เราก็จะดูรายรับ เงินหมุน สุขภาพของบัญชีบริษัทเป็นยังไง ต้องพิจารณาก่อนที่จะซื้อออฟชั่น ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรจะตรวจสอบก็คือลูกจ้าง หุ้นส่วน สำหรับ กลยุทธวิธีนี้ผมขอเรียกว่าการดูภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจก่อนการลงทุนในหุ้นครับ
ข้อ 2. กลยุทธ์ทางเทคนิคใช้ Indicator
สำหรับวิธีการนี้ ค่อนข้างนิยมครับ เพราะทำได้ง่าย ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า indicator ซึ่งจริงๆแล้วมันก็เป็นสมการคณิตศาสตร์ตัวหนึ่งที่นำเอาข้อมูลกราฟมาประมวลผลย้อนหลัง นำข้อมูลอดีต มาทำนายราคาอนาคตของสินทรัพย์ วิธีนี้ไม่เเกี่ยวข้องกับมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์นั้นๆเลยครับ และมันค่อนข้างที่จะมีประโยชน์สำหรับการเล่น ออฟชั่นมากๆ
เพราะคุณไม่ต้องไปขุดคุ้ยว่าบริษัทมีสภาวะทางการเงินเป็นยังไง เราจะใช้เพียงเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ ที่เรียกว่า อินดิเคเตอร์ (indicator) มาวิเคราะห์ทางเทคนิค เรียกว่า Technical Analysis สำหรับ Indicator ที่นิยม ตัวอย่างเช่น Bollinger Band , Moving Average ฯลฯ
ข้อ 3. เทคนิคเล่นตามเทรน ใช้ Price Action
กลยุทธวิธีนี้เราจะใช้สิ่งที่เรียกว่า Price Action ก็คล้ายๆ กับ กลยุทธวิธีในข้อที่ 2 แต่ต่างกันตรงที่ไม่ได้ใช้ indicator เลย ผมจะมองกราฟเปล่าๆ และอาศัยการดูภาพรวม ว่าเทรนตอนนี้เป็นยังไง ถ้าราคาปัจจุบัน ดูๆ แล้วมันมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวขึ้น เรื่อยๆ ดูจากการขีดเส้นเทรน แนวรับ แนวต้าน เราจะเห็นภาพรวมของกราฟว่าเป็นยังไง
ถ้ากราฟกำลังขึ้น เราก็เล่นขึ้น CALL Option ในทางตรงกันข้าม ถ้ากราฟกำลังลง เราก็เล่นลง PUT Option กลยุุทธวิธีนี้ควรอาศัยการจดจำรูปแบบกราฟที่เคยเกิดขึ้นแล้ว ต้องจดจำกราฟให้ได้ เพราะกราฟหุ้นจะเคลื่อนตัวลักษณะเดิมๆ ตลอด
ข้อ 4. เทรดตาม signal
บางคนอาจจะไม่รู้จัก Signal ผมขออธิบายไว้ก่อนว่า ตอนนี้เราเป็นนักเล่นหุ้นหน้าใหม่ เราเล่นไม่เป็น แต่เราหวังจะได้ผลตอบแทนในการลงทุน แล้วจะทำยังไง? มันก็มีนักเทรดที่เชี่ยวชาญ ทำเครื่องมือไว้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บ หรือ App หรือ SMS บอกว่า ถ้าเทรดตามมันเนี่ย เราจะได้ตังแน่ๆ เมื่อเราสมัครซื้อ Signal จากบริษัท Signal มืออาชีพต่างๆ แล้วเขาก็จะส่ง Signal ให้ทางบราวเซอร์ ถ้ามี signal จะมีเสียงกริ๊งงๆ ดังขึ้น ก็รีบวิ่งมาประจำการหน้าคอมได้เลย
หรือจะส่งแจ้งเตือนว่าให้รีบซื้อนะ ตอนนี้สินทรัพย์นี้กำลังจะขึ้น ผ่านทาง SMS ก็ได้ครับ สำคัญที่ เมื่อเราได้รับ SMS แล้วเราต้องรีบเทรดทันทีอย่ารอช้า ช้าไปเพียงเล็กน้อยผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่เหมือนกันครับ
| คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: Martingale เป็นแค่เครื่องมือช่วยในบริหารเงินเท่านั้น ไม่อาจการันตีผลกำไรได้ ไม่แนะนำวิธีการนี้สำหรับการเทรด |
ข้อ 5. การเทรดโดยใช้ Martingale
การใช้ Martingale มีความเสี่ยง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกเทคนิคที่ดีที่ควรศึกษาเอาไว้ จะถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 เทคนิคย่อย คือ Winning Martingale และ Lossing Martingale เดี๋ยวเรามีอธิบายแยกย่อยกันดีกว่า
การใช้ Winning Martingale
มีวิธีการเล่น คือ สมมติว่า Binary Option EUR/USD กำไรมากถึง 90%* ในแต่ละครั้งที่เล่นถ้าชนะหรือคาดการณ์ถูกนะครับ ในครั้งแรกผมจะลงทีละ $10 ถ้าคาดการณ์ถูกจะได้เงินกลับมา $19 รวมต้น รวมดอกแล้ว (ความเสี่ยง $10) ต่อมาผมจะลง $19 ทั้งหมดเลย ถ้าคาดการณ์ถูกในครั้งที่ 2 ผมจะได้เงินกลับมา $36.1 (ความเสี่ยง $10 เหมือนเดิม เพราะเราใช้กำไร เพื่อลงทุน)
| * จำนวนเงินที่จะได้รับเครดิตไปยังบัญชีในกรณีที่ซื้อขายประสบผลสำเร็จ |
ถัดมาให้ลง $36 หมดเลยในครั้งที่ 3 แล้วเราก็คาดการณ์ถูกอีกเหมือนเคย ได้เงินกลับมา $36×1.9=$68.4 (ความเสี่ยง $10) ตอนนี้คาดการณ์ถูกติดกัน 3 ครั้งแล้ว ผมพอใจแล้ว แสดงว่า $68.4 – $10 (เงินต้น) = $58.4 กำไรเห็นๆ จากเดิมมี $10 หลังคาดการณ์ถูกติดกัน 3 ครั้งเราจะได้เงิน $58.4 แต่วิธีการนี้เราจะต้องคาดการณ์ถูกติดกัน 3 ครั้งเท่านั้น ถึงจะเรียกว่าชนะ รอบต่อไปก็ลงเริ่มต้นใหม่ที่ $10 แล้วถ้าแพ้ระหว่างนั้นล่ะ เราก็เสียแค่ $10 เพราะความเสี่ยงเราคงที่ตลอด $10
วิธีการนี้ถือว่าความเสี่ยงต่ำมาก เราควรไปศึกษาเพิ่มเติมกเยอะๆ ว่าจะทำยังไงให้เราสามารถทำนายทิศทางตัวหุ้นได้ถูกต้องติดกันให้ได้ แน่นอนว่าไม่มีทางที่เราจะทายถูกตลอด มีแพ้ มีชนะ แต่เราควรหาวิธีศึกษาตามกลยุทธวิธี 1-4 ทำยังไงก็ได้ให้เราคาดการณ์ถูกติดกัน 3 ครั้ง ลง $10 กำไร $58.4 แน่นอน ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็อาจจะลงให้คาดการณ์ถูกติดกัน 4 ครั้งก็ได้ กำไรก็จะสูงเป็นเท่าตัวเลย แต่ว่าการที่เราจะคาดการณ์ถูกติดกัน 4 ครั้งก็ยากมากขึ้นเช่นกัน
การใช้ Losing Marktingale
คือ ป้องกันการเสีย แต่เราอาจจะเสียเยอะๆ ไปเลยก็ได้ถ้าเราแพ้ติดกัน อาจจะยังไม่เข้าใจ เดี๋ยวมาทำความเข้าใจกันดีกว่า เช่น ถ้าผมลง $1 ถ้าผมคาดการณ์ถูก ผมจะได้เงินมา $1.9 ต่อมาในครั้งถัดไปให้ลงเงินคงที่ ที่ $1 เรื่อยๆ ถ้าคาดการณ์ถูกจะได้กำไรทีละ $1.9 (เงินต้นรวมดอก) วิธีนี้เราจะลงคงที่ทุกครั้ง กำไรก็จะได้คงที่ด้วย
แต่ถ้าคาดการณ์ผิดล่ะ เช่น ลง $1 แล้วเราคาดผิด เราจะเสีย $1 ไปเลย (ความเสี่ยง $1) ในครั้งต่อไป ผมจะลง $3 ดอล (ความเสี่ยง $1+$3) ถ้าคาดการณ์ถูก ผมจะได้เงิน $5.7 นั่นก็คือเป็นเงินทุนครั้งนี้ $3 + เงินที่เสียครั้งแรก $1 + กำไร ของการเทรด 2 ครั้ง $1.7 = $5.7 สังเกตว่า ถ้าเราคาดการณ์ผิด วิธีนี้เราจะลงเงินเพิ่มขึ้นความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าเราคาดการณ์ถูกขึ้นมา เราจะได้กำไรรวมต้นทุนที่เสียไปของครั้งก่อนๆ มาทั้งหมดเลย เรียกว่าถึงแพ้ แต่จริงๆ ไม่แพ้
แล้วเราจะแพ้จริงๆ เมื่อไรล่ะ ก็แพ้ตอนที่เราไม่มีเงินลงเบิ้ลขึ้นไปอีก เราหมดเงินแล้ว ก็จะไม่มีอะไรที่จะสามารถมาเบิ้ลเงินให้ได้ทบต้น ทบกำไร อีกนับว่าเป็นวิธีที่เสี่ยงมากๆ ความเสี่ยงจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราแพ้ติดกันหลายๆ ครั้ง
| เล่นตาที่ N | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
| เงินเทรดตาที่ N | $1 | $3 | $8 | $18 | $40 | $88 | $196 |
| ความเสี่ยงที่จะเสียเงิน | $1 | $4 | $12 | $30 | $70 | $158 | $354 |
| ความน่าจะเป็นของการแพ้ติดกัน N ครั้ง | 1/2 | 1/4 | 1/8 | 1/16 | 1/32 | 1/64 | 1/128 |
* ดูจากมือถือ ตารางสามารถ Scroll เลื่อนซ้าย ขวาได้
ดูจากตาราง การที่เราจะแพ้ติดกัน 7 ครั้ง มีโอกาสน้อยมากๆ คือ 1 ใน 128 ถ้าเราแพ้แค่ 4 ครั้ง แล้วชนะในตาที่ 5 ก็ถือว่าไม่แพ้ เราจะได้เงินต้นทบดอกกลับมาหมดเลย การใช้ Losing Martingale ประโยชน์คือป้องกันการเสีย
แต่ถ้าเสียคือเจ็บหนัก การใช้ Losing Martingale ควรลงเงินเริ่มต้นทีละ $1 และเราควรมีเงินในบัญชีเทรด $354 เพื่อเป็นบัพเฟอร์เงิน สำรองเอาไว้เวลาเสีย จะได้ลงเงินทบกลับไป ได้มากถึง 7 ตา ผมเรียกว่ามีบัพเฟอร์ 7 ครั้ง ถ้าแพ้ไม่เกิน 7 ตา ติดกัน ก็ถือว่าไม่เสีย
จากการทดลองของผมเอง ผมนั่งกดมั่วๆ ด้วยเงินปลอม 1000 รอบ รอบละ $1 พบว่า ผมจะคาดการณ์ถูก 514 ครั้ง ตีเป็น 51% และมีโอกาสที่ผมจะคาดการณ์ผิดติดกันเกิน 7 ครั้งอยู่รอบเดียว โอกาสน้อยมาก แต่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นการใช้วิธีการนี้ก็ต้องระวัง ใช้อย่างมีขอบเขตยอมรับในความเสี่ยงที่เราสามารถยอมรับได้เท่านั้น
สรุปทิ้งท้าย
บางคนอาจจะใช้กลยุทธวิธีแตกต่างกันไป ก็ขึ้นอยู่แล้วแต่ตัวบุคคล บางคนอาจจะใช้กลยุทธวิธีตามที่ผมบอก ข้อ 2 ข้อ 3 รวมกัน ดูทั้ง indicator และวิเคราะห์ Price Action ก็แล้วแต่เราจะใช้ พิจารณาด้วยตนเองครับ แต่ขอให้อย่าลืมว่า การเทรดไม่ใช่การเสี่ยงดวง เวลาเล่นเราควรมีกลยุทธวิธีเสมอ
เราควรสร้างระบบเราไว้ ตั้งเงื่อนไขไว้ว่า เราจะเทรดก็ต่อเมื่อ …. ทำให้ได้อย่างที่เขียนเอาไว้ เลือกกลยุุทธที่เหมาะกับตัวของเราเอง ฝึกฝนให้มากๆ และอย่าพึ่งยอมแพ้ครับ ไม่มีล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก
สำหรับใครที่อ่านจบแล้ว แต่อยากรู้จักไบนารี่ออฟชั่นมากขึ้น ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้ครับ เจาะลึกไบนารี่ออฟชั่น กับ โบรกเกอร์ iq otpion และใครอยากเปิดบัญชีเทรด IQ Option เพื่อลองเล่นออฟชั่น ก็ทำได้ฟรีๆ ครับ คลิ๊กทำตามขั้นตอน คู่มือเริ่มต้น IQ Option ได้เลย
| คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การเทรด Binary options อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้น กรุณาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน |