รีวิวการใช้งาน แพลตฟอร์ม forex ฟีเจอร์ใหม่ของ Olymp Trade forex
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน วันนี้ผมมีข่าวดี สำหรับนักเทรด fixed time trade ของ Olymp Trade ทุกท่าน อย่างที่ทราบกันดีกว่า Olymp Trade คือ แพลตฟอร์ม fixed time trade อันดับต้นๆของโลก ถ้านึกถึงการเทรด fixed time trade ก็ต้องนึกถึง Olymp Trade ละน่า อีกทั้งตลอดทั้งปี 2017 ที่ผ่านมา Olymp Trade ก็ได้ทำการปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์การเทรด fixed time trade ใหม่ ดีขึ้นกว่าเก่ามากๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในทุกๆเดือน และได้เพิ่มเติมความสะดวกสบายในการโอนเงิน ทำให้โอนเงินไปเทรดง่าย ถอนก็ง่าย นับว่าเป็นการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นเลยทีเดียวครับ และตอนนี้ Olymp Trade ก็ได้ พัฒนาดียิ่งขึ้นไปอีกโดยการผนวกรวมแพลตฟอร์ม Forex เข้ามา เรียกว่า Olymp Trade Forex ดังนั้น ตอนนี้เลยนักเทรดของ Olymp Trade ทุกท่าน จะสามารถเลือกเทรดได้ทั้ง fixed time trade และ forex แล้ว
โดยตอนนี้ผมจะมารีวิวฟีเจอร์ต่างๆของแพลตฟอร์มให้ทุกๆ ท่านได้รู้ก่อน ตามมาดูได้เลยครับ
ก่อนอื่นให้ทุกท่านล๊อกอินเข้าไปที่ระบบของ Olymp Trade เพื่อเข้าแพลตฟอร์มเทรดส่วนตัวก่อนเลย
หลังจากนั้นเมื่อเข้าไปแล้วให้ดูตามภาพครับ คลิ๊กที่มุมซ้ายบนแพลตฟอร์ม
หลังจากเมนูเปิดขึ้นมาให้ทำการ เลื่อนลงไปด้านล่างๆ จะเห็นคำว่า [Forex -> Go] ให้คลิ๊กต่อได้เลยครับตามภาพ
ระบบจะทำการเปลี่ยนจากแพลตฟอร์ม ที่ใช้อยู่ปัจจุบันคือ fixed time trade กลายเป็น แพลตฟอร์ม Olymp Trade Forex ดูตามภาพด้านล่างได้เลยครับ
สำหรับการใช้งานก็ไม่ยากครับ เพราะว่าหน้าตาของระบบการเทรดก็คล้ายๆ กันกับ fixed time trade ทาง Olymp Trade Forex เขาก็ออกแบบมาคล้ายๆ กัน
ข้อแตกต่างของ Forex ที่ต่างจาก fixed time trade
- Forex มันไม่มีการตั้ง Expire หรือเวลาหมดอายุสัญญาเหมือนกับ fixed time trade พูดง่ายๆ คือ เมื่อซื้อแล้วเราจะสามารถขายออกตอนไหนก็ได้ แล้วแต่เรา แต่สำหรับ fixed time trade เมื่อซื้อแล้วจะบังคับขายอัตโนมัติ ตามอายุสัญญาที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่แรกก่อนจะซื้อ
- fixed time trade ไม่มีค่า commission หรือจะเรียก spread หรือค่าธรรมเนียมการเทรดก็ได้ เทรดเท่าไร ได้เท่านั้นเลย แต่สำหรับ Forex จะมีค่า commission ที่ต้องจ่ายให้กับโบรกอยู่นะครับ นิดหน่อย เมื่อเวลาเราซื้อหรือเริ่มเทรด เราจะถูกหักเป็นค่าธรรมเนียมตั้งแต่เริ่มต้นเลย
- fixed time trade ถ้าเทรด คาดการณ์ทิศทางถูกต้อง จะได้กำไร fix ตามมูลค่าที่ระบบกำหนดตั้งแต่แรก ส่วน forex นี่มูลค่าก็จะได้ตามมูลค่าราคาตลาดที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์นั้นๆ ที่เราทำการเทรด ดังนั้น เมื่อเทรดแล้ว รอให้ติดบวกก่อน กำไรตามความพอใจของเรา ก็สามารถขายได้ทันที
- สำหรับ fixed time trade ถ้าเทรดคาดการณ์ทิศทางผิด แล้วครบกำหนด expired ก็จะเสียเงินต้นที่ลงทุนทั้งหมดเลย ส่วน forex ถ้าคาดการณ์ผิด ก็จะติดลบตามมูลค่าที่ราคาที่ลดลงของสินทรัพย์นั้นๆ โดยเราอาจจะยังไม่ได้ขายแล้วเราอาจจะติดบวกอีกครั้งก็ได้ หรือราคาลงมากๆ เราตกใจขาย เลยก็ติดลบตามมูลค่าราคาที่ลดลงขณะนั้น
มาดูส่วนต่างๆของแพลตฟอร์ม Forex ของ Olymp Trade กันดีกว่า
- กราฟสำหรับวิเคราะห์ เพื่อใช้ตัดสินใจในการเทรด forex
เราสามารถเปลี่ยนรูปแบบกราฟได้จากตำแหน่งนี้ในหน้าจอ
โดยทาง Olymp Trade ได้มีกราฟให้เลือกอยู่ 3 แบบด้วยกัน ดังนี้
- แผนภูมิโซน ข้อดีคือ เอาไว้ใช้ดูความเคลื่อนไหวของราคาแบบเรียลไทม์ กราฟจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ไม่ควรนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการตัดสินใจเทรด เพราะจะทำให้ผิดพลาดได้
กรอบเวลาจากซ้ายสุดหน้าจอ ถึงขวาสุดของหน้าจอกราฟ ที่เราสามารถปรับได้มีตั้งแต่
10 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง, 6 ชั่วโมง, 12 ชั่วโมง, 1 วัน, 5 วัน, 10 วัน และ 1 เดือน
หากเราปรับ time frame ไว้มากถึง 1 เดือน แพลตฟอร์ม Olymp Trade Forex จะซูมกราฟออกไป ทำให้เราเห็นภาพกราฟเทรนใหญ่ที่สุด
- แท่งเทียน ญี่ปุ่น เป็นกราฟที่คนทั่วโลกนิยมใช้ และพูดได้เลยว่าเป็นกราฟหลักของนักเทรดทั่วโลก เพราะกราฟแท่งเทียนสามารถบอกอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ขณะนั้นได้ กราฟแท่งเทียนยังมีแพตเทิร์น หรือรูปแบบ จุดกลับตัวของกราฟให้เราจดจำ และความหมายอีกด้วย เราสามารถดูกราฟแท่งเทียนเพื่อหาจุดกลับตัวของกราฟได้ง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับกราฟแท่งเทียนนี้เราจะไม่ได้เป็นการปรับกรอบเวลา แต่จะเป็นการปรับขนาดกราฟแท่งเทียน โดยสามารถปรับได้ตั้งแต่
10 วินาที, 1 นาที, 10 นาที, 15 นาที, 30 นาที, 60 นาที
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเลือกปรับกราฟแท่งเทียนเป็น 10 นาที นั่นหมายความว่า กราฟที่แสดงจะปรากฏแท่งเทียนแท่งละ 10 นาที ครบ 10 นาที ก็จะเปลี่ยนไป 1 แท่ง
- ไฮเคน อะชิ (Heiken Ashi) เป็นกราฟที่พัฒนามาจากกราฟแท่งเทียน โดยนำกราฟแท่งเทียนมาเฉลี่ย เพื่อลดความผันผวนของตลาดมากยิ่งขึ้น โดยกราฟ ไฮเคน อะชิ จะสามารถบอกได้ว่าตอนนี้กราฟกำลังขึ้นอยู่นะ เป็นแท่งสีเขียว และถ้ากำลังลงก็จะเป็นสีแดงติดๆ กันไป ช่วยบอกเทรนขาขึ้นและขาลงได้ง่ายยิ่งขึ้น
เนื่องจากกราฟ ไฮเคน อะชิ เป็นเหมือนกับแท่งเทียน ดังนั้นการกำหนดขนาดแท่งเทียนนั่นเอง ปรับได้เช่นเดียวกันกับแท่งเทียน คือ
10 วินาที, 1 นาที, 10 นาที, 15 นาที, 30 นาที, 60 นาที
ซึ่งการเลือกใช้งานกราฟนั้น ก็ต้องบอกเลยว่าแล้วแต่ความชอบ แล้วแต่เทคนิคการวิเคราะห์ของแต่ละคน แต่สำหรับตัวผมเลยขอบอกว่าถ้าจะเล่น forex ควรเล่นแบบ ดูเทรนที่ภาพรวม ภาพกว้างๆ หรือปรับแท่งเทียนขั้นต่ำไว้ที่ 4 ชั่วโมง เป็นต้นไป เพื่อจะได้เห็นเทรนของตลาดชัดเจน และเทรดง่าย วิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ส่วนภาพด้านล่างนี้ จะแสดงตำแหน่งเมื่อทำการเทรดแล้ว จะขึ้นรายการซื้อขายปัจจุบันที่ตำแหน่งนี้
สินทรัพย์ที่สนับสนุน
ปัจจุบันนี้ Olymp Trade สนับสนุน สินทรัพย์อยู่ 30 แบบ ด้วยกัน โดยแบ่งเป็น กลุ่มสกุลเงิน (Crypto Currency Pair) 28 ตัว และเป็นแร่ อีก 2 ตัว
สำหรับมือใหม่ที่เข้ามาเริ่มเทรด olymp trade forex ควรเลือกสินทรัพย์สัก 1 ตัวที่เราสนใจครับ และคอยติดตาม คอยดูอยู่เสมอ อย่าจับหลายสินทรัพย์พร้อมกัน เพราะดูกราฟแล้วมันจะงงมากๆ
เทรด Forex ควรเทรดตามข่าว
จริงๆ แล้ว แล้วแต่คนชอบเลยครับ บางคนอาจจะติดตามข่าว และเทรดตามข่าวที่เกิดขึ้น โดยวิธีนี้จะดีมากๆ ครับถ้าทำได้นะ แต่อาจจะต้องเรียนรู้เยอะหน่อย อ่านภาษาอังกฤษให้ออก รวมถึงต้องรู้ศัพท์ข่าว ทางการเงินด้วย ว่าอะไรส่งผลกระทบต่ออะไร และจริงๆ แล้วถ้าทุกท่านสำรวจเว็บของ Olymp Trade Forex ได้ทุกซอกมุม จะไปเจอปฏิทิน เศรษฐกิจ ที่เค้าทำไว้ให้แล้ว วิธีเข้าถึงก็คลิ๊กตามภาพได้เลยครับ
เริ่มจากดูที่ platform นะครับ เมื่อล๊อกอินเข้ามาก็คลิ๊กไปตามภาพ ที่เมนูด้านซ้าย
และหลังจากนั้น จะเห็นคำว่า Analytics คลิ๊กไปเลย ก็จะพบกับตารางข่าว
จากภาพด้านบนจะพบว่า มี เวลาที่ข่าวจะออก รวมถึงผลกระทบต่อค่าเงิน รายชื่อข่าวที่ออก การคาดการณ์เป็นตัวเลข รวมถึงการคาดการณ์ก่อนหน้าของเดิม ว่าเป็นอย่างไร และเมื่อข่าวออกแล้วค่าตรง Actual ในรูปด้านบนจะปรากฎออกมาจริงๆ
Indicator (ตัวบ่งชี้) เครื่องมือช่วยวิเคราะห์การเทรด
ตอนนี้มี 11 indicator หลักที่คนมักใช้กัน โดย Olymp Trade ได้เตรียมมาให้เลือกใช้ นั่นก็คือ นั่นก็คือ
- SMA
- EMA
- Parabolic SAR
- MACD
- RSI
- Stochastic
- Demarker
- Bollinger Band
- Ichimoku Cloud
- Sentiment
- Horrizontal Line
สำหรับตัว Indicator แต่ละตัวนี้ ผมไม่ได้สอนนะครับ ไม่งั้นมันจะยาวไปเลย และไม่ใช่จุดประสงค์ของบทความนี้ด้วยล่ะ เพราะผมจะมาแนะนำระบบเทรด forex ของ Olymp Trade เท่านั้น
เริ่มต้นทดลองเทรด
ก่อนอื่นหากเข้ามาแล้วยังไม่มีเงินให้เติมเงินลงไปก่อน ทาง Olymp Trade ได้เตรียมเงิน เดโม่ สำหรับทดลองเล่นไว้ให้ด้วย หรือใครพร้อมแล้ว เคยเทรดมาแล้ว ก็เติมเงินจริงลงไปเลยก็ได้ไม่ว่ากัน
แต่สำหรับมือใหม่ตามมา ดูรูปด้านล่าง คลิ๊กที่ Make a deposit
จะขึ้นหน้าจอแบบนี้
ให้คลิ๊กที่ Deposit ตามภาพด้านบนเลย จะเป็นการเติมเงินเดโม่ ทดลองเล่นเข้าไป
หลังจากนั้นเมื่อมีเงินพร้อมแล้ว ให้มองไปที่ด้านขวามือ และก็ให้ใส่จำนวนเงินหน่วย US$ ที่ต้องการเทรดลงไป และเลือกทิศทาง เพียงเท่านี้ ตามภาพด้านล่างนี้เลย
รายการซื้อขายก็จะไปปรากฏไว้ที่ตำแหน่งด้านล่าง และแสดงผลแบบเรียลไทม์
หากต้องการขายให้กดที่ปุ่ม Close เพื่อเป็นการปิด หรือการขายออกไป เท่านี้เองครับ เทรดไม่ยาก แต่วิเคราะห์ให้เทรดถูกทิศทางนี่ว่ากันทีหลัง 55
การตั้งค่าระบบ Take Profit และ Stop Loss อัตโนมัติ
หลังจากที่เราได้ทดลองเทรดไปแล้ว ตอนนี้ก็มีเพียงรอให้ผลการคาดการณ์ของเราถูกต้องและปล่อยให้มันทำกำไรไป Let Profit Run ส่วนค่าที่เราจะสามารถกำหนดเพิ่มเติมได้อีกก็คือ
- Take Profit ในแต่ละรายการที่เราเทรดไป จะมีช่องให้เราสามารถกรอกเข้าไปได้ ว่าเราจะเอา Profit จากการเทรดครั้งนี้เท่าไร กรอกลงไป เมื่อทิศทางการคาดการณ์ของเราถูกต้อง กำไรจากการเทรดเพิ่มขึ้นไปถึงค่าที่ตั้งเอาไว้ Olymp Trade จะทำการปิดขายให้เราอัตโนมัติเลยทันที
- Stop Loss ในเมื่อการคาดการณ์ไม่เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง สวรรค์ช่างไม่เห็นใจเรา เราก็ควรจะตั้ง Stop Loss เอาไว้ เพื่อให้ไม่ขาดทุนมากกว่าที่จะเสียได้ โดยปกติแล้วในระบบ Olymp Trade จะไม่อนุญาตให้ตั้ง Stop Loss เกินกว่าจำนวนเงินที่ลงทุน
หมายเหตุ ใครที่เคยเทรด Forex มาก่อนจากโบรกอื่น ตรงนี้จะไม่เหมือนกันเพราะ Olymp Trade ไม่ได้มี Margin จะใช้วิธีการหักเงินออกจากเงินที่ลงทุนไปเลย แต่สำหรับ Margin คือ ถ้าเราลงเงินไป $100 แต่ในบัญชีเรามีเงิน $1000 เมื่อเทรดแล้ว เวลาติดลบระบบจะไปหักเงินออกจาก Margin $900 ที่เหลือ)
จะมี Position หรือตำแหน่งที่เราได้ทำการซื้อเอาไว้เปิดอยู่
การปิดขายรายการเทรดด้วยตนเอง
ให้เลือกกดหลังรายการเทรดที่ยังคงเปิดอยู่ จะมีปุ่ม Close ให้เราคลิ๊กที่ปุ่มนั้นได้เลย รายการก็จะปิด
สรุปผลการเทรด
ถ้าอยากกดดูผลการเทรดของเรา ก็ให้คลิ๊กไปที่รายการเทรดที่ปิดไปแล้ว ระบบมันก็จะแสดงข้อมูลทั้งหมด ว่าเราเทรดสินทรัพย์ชื่ออะไร ลงทุนไปเท่าไร ลงแล้วติดลบหรือได้กำไร รวมถึงแสดงกราฟคร่าวๆ ตั้งแต่ตำแหน่งที่เราเปิดการซื้อขาย จนกระทั่งสินสุด รวมถึงเหตุผลที่ปิดการซื้อขายที่ด้านล่าง
โดยสรุปแล้ว แพลตฟอร์ม Olymp Trade ก็ทำระบบเทรดฟอร์เร็กออกมาได้ใช้งานง่ายมากๆครับ ไม่ได้รู้สึกแตกต่างหรือใช้งานยากไปจากเดิม ฟีเจอร์สำคัญพื้นฐาน ก็มีครบ กราฟก็สามารถปรับได้เพียงพอสำหรับการเทรด รวมถึงมี Indicator ให้อีก 11 ตัวอีกด้วย น่าสนใจมากๆครับ แต่สำหรับมือเทรด forex แบบ advance แล้ว ต้องการพวก Leverage หรือคานผ่อนแรง อันนี้ยังไม่มีให้ใช้นะครับ คาดว่าในอนาคตอีกไม่กี่เดือนหน้าก็คงจะเห็นเพิ่มเติม รอติดตามข่าวจาก Olymp Trade ต่อไป