การติดต่อสื่อสารในปัจจุบันนั้น ง่ายมากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นเพราะราคาของสมาร์ทโฟน(หรือโทรศัพท์ทั่วไปนั้น)มีราคาที่ถูกลง และการดำเนินงานของบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนคมก็มีการแข่งขันกันมากยิ่งขึ้น ทำให้ระบบเครือข่ายนั้นดีกว่าเมื่อก่อน จึงทำให้ในยุคปัจจุบันนี้โทรศัพท์มือถือค่อนข้างมีบทบาทการใช้งานและการใช้ชีวิตสารพัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร , ดูสื่อบันเทิงต่าง , ฟังเพลง , เล่นอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การดูแผนที่ เป็นต้น แต่การที่โทรศัพท์มือถือนั้นมีการตอบรับการใช้งานที่หลากหลายนั้นก็ย่อมต้องใช้พลังงานที่มากขึ้น โดยแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่จำเป็นขึ้นเรื่อย ๆตามกาลเวลา และการพัฒนาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งหน้าจอที่มีความละเอียดสูงขึ้น และชิปเซ็ตที่มีความเร็วสูง ดังนั้นทำให้สมาร์ทโฟนถูกใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น และทำให้แบตเตอรี่อาจจะหมดเร็วขึ้น และเสื่อมไวขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้ผลิตหลักกระแสต่าง ๆ หันมาใช้เทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มขนาดความจุกระแสสำหรับแบตเตอรี่ ซึ่งนั่นเองทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน หรืออาจจะเป็นผู้คนทุกคนบนโลกนี้ที่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนต้องเสียเวลาในการชาร์ตแบตเตอรี่ที่นานมากขึ้น เพื่อรอเวลาให้แบตเตอรี่เต็ม โดยมีระบบชาร์ตแบตเตอรี่เร็วของ Qualcomm, OPPO, Samsung และ Intel อย่างไรก็ดี ใน iPhone จะไม่มีระบบชาร์จเร็ว
เทียบการชาร์จของ iPhone 6 Plus
iPhone 6 Plus มีแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงขึ้นกว่า iPhone 6 เป็นเท่าตัวหรือประมาณ 2,915mAh ซึ่งทำให้จะทำให้เราเสียเวลาในการชาร์ตแบตเตอรี่ของ iPhone 6 Plus เป็นเวลานานเกินกว่าสามชั่วโมง แต่จากการทดสอบเวลาชาร์ตของ iPhone 6 Plus ไม่ได้นานเป็นสองเท่าของ iPhone 6 แต่กลับเป็นรุ่นที่ใช้เวลานานที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆที่ได้กล่าวมาด้านบน
iPhone 6 Plus กลับสามารถพัฒนาให้ทำเวลาในการชาร์ตได้ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ จากผลสำรวจ iPhone 6 Plus จากการชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้เป็นเวลาสั้น ๆ ประมาณแค่ 15 นาที ทำให้ iPhone 6 Plus มีพลังงานพอใช้สำหรับการสนทนาได้ไม่เกินเวลา 3 ชั่วโมงในการคุยโทรศัพท์ ท่องเว็บได้ 1 ชั่วโมง หรือการดูคลิปวิดีโอได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง
ใช้งานเยอะแบตเตอร์รี่ก็ต้องเยอะตาม…
แน่นอนว่ายิ่งการใช้งานของมือถือนั้นมีแบตเตอร์รี่เยอะนั้นอาจจะเป็นเรื่องดีเป็นอย่างมาก ต่อการใช้งานในปัจจุบันของใครหลายๆ คน แต่ปัญหานั้นก็ย่อมที่จะมีเกิดขึ้นตรงที่ว่าเมื่อแบตเตอร์รี่นั้นหมดขึ้นมาแล้วนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องชาร์จเพื่อเติมพลังงานให้กับโทรศัพท์มือถือ แต่ว่าการที่ชาร์จโดยทั่ว ๆไปนั้นก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร(ถึงขั้นนานมาก ๆ) จึงเป็นปัญหาที่ทำให้เสียเวลาในการเดินทางหรือใช้ชีวิตอย่างอื่น Quick Charge จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างอัตราเร่งในการเพิ่มพลังงานแบตเตอร์รี่ให้รวดเร็วขึ้น โดยในปัจจุบันนี้ก็จะมีประเภทการชาร์จแบบโทรศัพท์อยู่ 3 ประเภท ได้แก่ การชาร์จแบบธรรมดา , Quick Charge 2.0 , Quick Charge 3.0
ทำอย่างไรถึงจะชาร์จโทรศัพท์มือถือได้รวดเร็วขึ้น
หากคุณนั้นต้องการจะไม่ต้องการเสียเวลากับการนั่งรอชาร์จแบตเตอร์รี่มือถือก็ขอแนะนำ
ว่าตอนซื้อมือถือ ก็ให้เลือกมือถือรุ่นที่ใช้ระบบการชาร์จด้วย Quick Charge 3.0 โดยจะช่วยเร่งใช้เวลาประมาณเพียงแค่ 35 นาทีเท่านั้นเต็ม เร็วกว่า Quick Charge 2.0 เกือบเท่าตัว(qc2.0 ใช้เวลา 30 นาทีได้ 50%) ลองคิดดูสิว่า ถ้าหากเป็นที่ชาร์จแบบธรรมดาจะช้าขนาดไหน เพราะฉะนั้นเลิกคิดไปได้เลย แต่การ Quick Charge 3.0 นั้นก็จะเป็นที่จะต้องมีสเปกของซีพียูเหล่านี้ ได้แก่ Snapdragon 820 , 620 , 618 , 617 และ 430
ในปัจจุบันนี้แบตสำรองก็ถูกใช้งานกันอย่างกว้างขวางเช่น แต่พบว่าผู้ใช้มือถือรุ่นใหญ่ๆ เช่น Note 4, i6 Plus หรือ มือถือที่รองรับเทคโนโลยี Quick Charge และมีแบตเตอรี่ภายในที่ใหญ่ เวลานำมาชาร์จกับแบตสำรองธรรมดานั้น แบตจะชาร์ตได้ช้ามาก เดี๋ยวนี้ก็เลยมีแบตสำรอง Quick Charge แล้ว แนะนำยี่ห้อหนึ่ง admin ได้ใช้งานด้วยตัวเอง รูปทรงเรียบหรู เหลี่ยมๆ บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่สำหรับผมชอบความสามารถ Quick Charge ของมัน ขอเรียกแบตเทพๆ ตัวนี้ว่า แบตสำรอง Quick Charge ยี่ห้อ Aukey ใช้งานได้ดีสุดๆ ชาร์จเต็มเร็วมากๆ ลองไปหาซื้อมาใช้ได้นะครับ
นับว่าเป็นเรื่องดีเป็นอย่างมากนะครับกับเทคโนโลยีที่ได้ก้าวหน้ามากขึ้นในระยะเวลาอัน
รวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่สิ่งหนึ่งที่คุณนั้นก็ควรพึงระวังก็คือ การใช้พลังงานไฟฟ้า อย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตของคุณและคนรอบข้างด้วยนะครับ
ป.ล. ทิ้งท้าย ใครอยากได้ aukey ติดต่อ admin ได้นะครับ รับ preorder จากต่างประเทศนำเข้ามา ใช้เวลาประมาณ 21 วัน ของถึงไทย ราคา 1490 บาท line @riwwee เดี๋ยวบทความหน้าจะทำรีวิวเกี่ยวกับ aukey ตัวนี้กันแบบเต็มๆให้เลย ว่ามันดียังไง แต่บทความนี้ขอจบไว้แค่เทคโนโลยี quick charge 2.0 นะ